หลังจากที่เราได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเภทน้ำมันเครื่อง หน้าที่ ค่าความหนืด เบอร์ต่างๆ การเลือกซื้อ และเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ต่อไปจะมาดูกันว่า วิธีเล่นแรงแบบต่างๆ กับระบบหล่อลื่น เราจะเริ่มต้นจากวิธีใด และของเล่นสำหรับรถแรงที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเครื่อง นั้นมีอะไรกันบ้าง
เล่นแรงง่ายๆ กับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ใสขึ้นอีกสักเบอร์
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ ความหนืดลดลงสักเบอร์เป็นวิธีสร้างความแรง และความคล่องตัวให้กับเครื่องยนต์ได้อย่างง่ายๆ แน่นอนน้ำมันเครื่องยิ่งใส ความหนืดย่อมน้อยลง ความต้านทานการไหลต่ำ ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์มีแรงเสียดทานลดลง รอบเครื่องยนต์กวาดได้ไวขึ้น แต่การจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ใสขึ้น เช่นจาก เบอร์ 50 เป็นเบอร์สัก 40 หรือจะเหลือเพียงเบอร์ 30 นั้นต้องคำนึงถึง สภาพของเครื่องยนต์ว่าต้องฟิตจริงๆ การออกแบบเครื่องยนต์รองรับกับน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำ มิฉะนั้นโอกาสชาร์ปละลายก็เป็นไปได้สูง เช่นสำหรับเครื่องที่เป็นไฮโดรลิกวาล์ว พวกนี้ต้องการน้ำมันเครื่องที่ค่อนข้างใส ราวเบอร์ 30 – 40 และสำหรับเครื่องพวกโซ่ราวลิ้นจะต้องการความหนืดที่เบอร์ 50 – 60 และสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลฟิตปั๊ง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจากเบอร์ 40 มาเป็นเบอร์ 30 จะทำให้เครื่องยนต์เร่งรอบเครื่องได้เร็วขึ้นอีกมาก แต่ถ้าจะพูดถึงรถแข่งระดับโลกอย่างรถ Dragter ที่วิ่งกันความเร็วเพียง 4 – 5 วินาที เบอร์น้ำมันเครื่องอาจจะลดต่ำถึงเบอร์ 0W-10 หรือ 0W-20 เรียกว่าหล่อลื่นแบบไร้แรงเสียดทาน หรือจะหันมาคบกับน้ำมันเครื่องเกรดรถแข่งหรือ Racing Oil ราคาก็ไม่แพงมาก ราวหลักพันต้นๆ ถึงหลักพันปลายๆ ต่อลิตรเท่านั้นเอง
เล่นแรงกับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ส่วนมากรถแรงๆ หรือรถแข่ง มักจะเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด (เท่าที่จะหาได้) ซึ่งหนีไม่พ้นน้ำมันเครื่องแบบ สังเคราะห์แน่นอนน้ำมันเครื่องแบบนี้ มีคุณสมบัติที่ดีกว่าน้ำมันเครื่องแบบธรรมดาตรงที่ มีอายุการใช้งานได้ยาวนานมาก คงคุณสมบัติในการหล่อลื่นไม่ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น หรือต่ำลงซักเพียงใด ฟิล์มน้ำมันยังแข็งแรงกว่า ไม่เสื่อมสภาพง่าย และแน่นอน การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแบบธรรมดา เป็นน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ จะทำให้รถแรงขึ้น ขับลื่นขึ้น เสียงเครื่องเงียบลง เครื่องยนต์สึกหรอช้าลง หรือที่เรียกว่าจ่ายแพงครั้งเดียว แต่ใช้งานได้อีกนาน
Oil Additives
อัพเกรดน้ำมันเครื่องเพิ่มแรงม้า ด้วยหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง
แน่นอนที่สุดกับวิธีเพิ่มแรงม้าที่พิสูจน์ได้ว่า ง่ายที่สุด ใช้จ่ายน้อยที่สุด ก็เห็นเป็นเพียงการผสมหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด กับน้ำมันเครื่องแบบธรรมดาที่ใช้อยู่ หัวเชื้อน้ำมันเครื่องถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันเครื่อง ซึ่งส่วนมากน้ำมันเครื่องที่ขายอยู่ในท้องตลาด ก็มีการผสมหัวเชื้ออยู่ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ปริมาณจะน้อยมาก การเพิ่มปริมาณของหัวเชื้อ หรือ Additiveให้มีปริมาณมากขึ้น เป็นการอัพเกรดน้ำมันเครื่องให้สูงกว่ามาตรฐาน และจะทำให้น้ำมันเครื่องมีคุณสมบัติในการหล่อลื่นดีมากยิ่งขึ้น ยิ่งลื่นมากขึ้น แรงเสียดทานก็น้อยลง เครื่องยนต์จึงแรงขึ้น ความร้อนลดลง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น สึกหรอช้าลง อายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องยาวนานขึ้น และหัวเชื้อยังเหมาะสำหรับรถแข่ง หรือรถที่โมดิฟลายในระดับสูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจไม่คาดคิด เช่นในกรณีน้ำมันเครื่องเกิดขาดระบบชั่วคราว เช่นเครื่องดูดน้ำมันเครื่องขึ้นไม่ทัน น้ำมันเครื่องรั่ว หรือปั้มน้ำมันเครื่องพัง แต่หัวเชื้อจะดีเพียงใด ขึ้นอยู่กับสูตรสำเร็จที่ผู้ผลิตหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง แต่ละยี่ห้อที่พยามยามทำออกมาขาย ซึ่งผู้ซื้อต้องเลือกให้ดีๆเท่านั้นเอง
Oil Press
เกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง
อุปกรณ์ตัวนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อประดับให้รถดูสวยงามเท่านั้น สำหรับรถธรรมดา และรถแข่งแบบโมดิฟลายแบบเต็มพิกัด เกจ์วัดเป็นได้ตั่งแต่การบ่งบอกถึงระดับแรงดันของน้ำมันเครื่องซึ่งแสดงในรูปแบบของเข็มชี้วัดแรงดันเป็น ปอนต์ หรือ Psi การใช้งานของเกจ์วัด เริ่มตั่งแต่สตาร์ทเครื่อง ซึ่งจะสังเกตได้ว่า แรงดันน้ำมันเครื่องจะสูงมาก ซึ่งแสดงถึงความหนืดของน้ำมันเครื่องก่อนสตราท์เครื่องยนต์ค่อนข้างสูง เพราะที่อุณหภูมิต่ำน้ำมันเครื่องจะหนืดข้นขึ้น จนถึงระดับอุณหภูมิเครื่องยนต์ใช้งานปกติ แรงดันน้ำมันเครื่องจะลดกลับลงมาสู่แรงดันที่แท้จริง แต่ถ้าเครื่องยนต์มีการใช้งานหนัก เช่นขับลากรอบสูงๆอย่างต่อเนื่อง หรือเหนี่ยวกันยาวๆ แรงดันน้ำมันเครื่องอาจค่อยๆลดต่ำลง ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าน้ำมันเครื่องใกล้ถึงจุดเดือด ร้อนจนน้ำมันเครื่องเริ่มใสใกล้เป็นน้ำ หรือจะเดือดจนแทบกลายเป็นไอ น้ำมันเครื่องจะหมดประสิทธิภาพการหล่อลื่น เครื่องอาจชาร์ปละลายได้ แต่แรงดันตกลงอย่างกะทันหัน แสดงได้ว่าปั้มน้ำมันเครื่องกระจายเสียแล้ว หรือน้ำมันเครื่องรั่วไหลออกจากเครื่องจนใกล้หมด เกจ์วัดตัวนี้เป็นตัวช่วยแสดงให้เรารู้ว่าควรจะขยี้คันเร่งต่อ หรือจะผ่อนคันเร่ง หรือรีบจอด เพื่อรีบแก้ไข ก่อนที่จะได้ยกเครื่องใหม่อีกตัวนั่นเอง
Oil Temp
เกจ์วัดความร้อนน้ำมันเครื่อง
ความร้อนของน้ำมันเครื่อง มีความผกผันกับแรงดันของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องเมื่ออุณหภูมิต่ำ จะมีความหนืดสูง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงความหนืดก็จะลดต่ำลง สำหรับเครื่องยนต์โมดิฟลาย เกจ์วัดความร้อนตัวนี้ เป็นตัวบ่งบอกถึงอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องในรูปแบบ องศาเซลเซียส (C) หรือเป็นแบบ ฟาเรนไฮต์ (F) ซึ่งต้องมีการจดบันทึกอยู่ตลอด อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องที่สูงเกินไป หมายถึงน้ำมันเครื่องจะมีความหนืดลดลง หมดสภาพในการหล่อลื่น เครื่องอาจพังในที่สุด ส่วนถ้าความร้อนน้ำมันเครื่องสูงอย่างต่อเนื่อง หมายถึงระบบการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ยังไม่เพียงพอ ต้องหาทางขยับขยายระบบระบายความร้อนให้ดีเพิ่มขึ้น เกจ์วัดตัวนี้ช่วยในการออกแบบ ระบบระบายความร้อน และแสดงให้รู้ถึงอุณหภูมิในเครื่องยนต์ที่แท้จริง
Oil Catch Tank
ถังดักไอน้ำมันเครื่อง
หลายคนยังแปลกใจว่าอุปกรณ์ตัวนี้มีหน้าที่อย่างไร ทำไมรถแต่งๆถึงนิยมติดตั้งกัน ถังดักไอมีหน้าที่ดักเอาไอของน้ำมันเครื่องที่มีความร้อนสูงจนเดือด เกิดการระเหยตัวกลายเป็นไอ คล้ายไอน้ำ ปะปนมากับแรงอัดของอากาศที่เล็ดลอดออกมาจากแหวนสูบ เครื่องยิ่งหลวมมาก แรงดัน และไอน้ำมันเครื่องยิ่งมีมาก ซึ่งปกติแล้วเครื่องยนต์ทุกตัว จะมีการระบายไอน้ำมันเครื่องออกมาทางส่วนเหนือสุดของเครื่อง เพื่อป้องกันแรงดันภายในเครื่องยนต์เกิน แล้วย้อนต่อกลับมาในคอไอดี เพื่อเผาไหม้ใหม่เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม แต่ถ้าไอน้ำมันเครื่อง มีปริมาณมากเกินไป ก็จะมีส่วนทำให้การจุดระเบิดของเครื่องยนต์ลดลง แทนที่เครื่องจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ กับน้ำมันเชื้อเพลิงดีๆพร้อมลุกติดไฟ กลับได้ส่วนผสมของไอน้ำมันเครื่องที่จุดระเบิดติดยากยิ่งกว่า ผสมเข้าไปด้วย เครื่องจะสูญเสียกำลัง แถมอุณหภูมิของไอน้ำมันเครื่องมีสูง ทำให้อากาศที่ไหลเข้าห้องเผาไหม้มีความหนาแน่นลดลง ดังนั้นรถแต่ง หรือรถแรงๆ จะนิยมทำกรองดักไอน้ำมันเครื่องขึ้นมา เพื่อดักไอน้ำมันเครื่องให้หลงเหลือในปริมาณน้อยที่สุด
Oil Racing Filter
ไส้กรองน้ำมันเครื่องซิ่ง
ไส้กรองน้ำมันเครื่องสีสันสวยงาม แล้วมาโฆษณาอวดสรรพคุณอีกว่า กรองอนุภาคได้ดีกว่า แข็งแรงกว่า แต่ราคาก็แพงกว่ามาก แท้จริงแล้วกลับมีความจำเป็นมากกว่าที่คิด ไส้กรองซิ่งพวกนี้จะมีการออกแบบผ้ากรองได้ยอดเยี่ยมกว่า โดยสามารถกรองเอาสิ่งสกปรกที่ปะปนมากับน้ำมันเครื่องได้มากกว่า ด้วยวัสดุที่ดีกว่า แถมยังทำให้น้ำมันเครื่องไหลผ่านได้รวดเร็วขึ้น เป็นผลทำให้แรงดันน้ำมันเครื่องสูงขึ้น และที่สำคัญด้วยวัสดุการประกอบภายนอกที่มีความแข็งแรง ทำให้ไส้กรองแบบนี้ สามารถรับมือกับแรงดันน้ำมันเครื่องที่สูงมากขึ้น อย่างในเครื่องยนต์ที่มีความเร็วรอบสูง หรือมีการแต่งปั้มน้ำมันเครื่องจนมีแรงดันสูงขึ้น จนไส้กรองแบบธรรมดารับมือไม่ไหว แตกกระจายแบบที่เห็นกันบ่อยๆ ไส้กรองแบบนี้จึงได้รับความนิยมสูง ตั่งแต่รถที่ต้องการให้เครื่องยนต์สะอาดขึ้น อายุของไส้กรองน้ำมันยาวนานขึ้น จนถึงรถแข่งที่ต้องการไส้กรองที่สามารถรับประกันได้ว่า ไส้กรองจะไม่เสียหายพ่นน้ำมันออกมา จนสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์
Oil Cooler
เพิ่มออยล์คูเลอร์ ระบายความร้อนให้กับน้ำมันเครื่อง
แน่นอนถ้าน้ำมันเครื่องเย็น ย่อมทำให้ความร้อนของเครื่องลดลง ดังนั้นการระบายความร้อนให้กับน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด คือการติดตั้งออยล์คูเลอร์ สังเกตได้ว่า เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเจอร์จากโรงงานเกือบทุกตัว จะมีการติดตั้งออยล์คูเลอร์แถมมาให้ด้วย เป็นเพราะในเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ต้องทำงานหนัก ความร้อนของเครื่องยนต์จะสูงขึ้นมาก ดังนั้นการลดความร้อนให้กับเครื่องยนต์ได้รวดเร็วที่สุด คือการลดความร้อนให้กับน้ำมันเครื่อง เพราะน้ำมันเครื่องมีหน้าที่ในการนำพาความร้อนของเครื่องในทุกส่วนของเครื่องมาระบายความร้อนให้เย็นลง ออยล์คูเลอร์มีส่วนในช่วยในการระบายความร้อนของน้ำมันเครื่อง และของเครื่องยนต์ซึ่งการทำให้ความร้อนของเครื่องยนต์เย็นลง มีส่วนในการยืดอายุของเครื่องยนต์ และอายุของน้ำมันเครื่องให้ใช้งานได้ยาวนานเพิ่มขึ้น
Oil Plumbing and Fittings
สายน้ำมันเครื่อง และข้อต่อแรงดันสูง
สายน้ำมันเครื่องแรงดันสูง หรือพวกสายถักสีสันสวยงาม สายพวกนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงาม หรืออย่างไร แต่สายแรงดันพวกนี้รถแรงๆมักนิยมหามาใส่กัน ด้วยเหตุผลที่ทนแรงดันของน้ำมันเครื่องได้สูงกว่าสายน้ำมันแบบทั่วๆไปมาก มีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า และทนความร้อนได้สูงกว่า สายถักสแตนเลสพวกนี้ถูกออกแบบมาให้รับมือกับ เครื่องยนต์ที่มีการโมดิฟลายในระดับสูง เช่นเปลี่ยนปั้มน้ำมันเครื่องที่มีแรงดันสูง หรือรอบเครื่องสูงมากๆ การเดินสายแรงดันน้ำมันเครื่องในระยะทางไกล ป้องกันการเสียดสี แถมยังทนทานต่อแรงกระแทกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย ดังนั้นเพื่อความชัวร์ รถแต่ง หรือแม้แต่รถแข่ง จะนิยมนำสายประเภทนี้มาใช้เป็นส่วนมาก โดยเฉพาะการใช้สายน้ำมันเครื่องแรงดันสูง กับหัวข้อต่อรับแรงดันอย่างดี เป็นการประกันได้ว่า โอกาสที่ท่อน้ำมันเครื่องจะแตกจะขาด หรือน้ำมันเครื่องจะรั่วออกมานั้น ควรจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย
Racing Oil Pump
ถ้าจะเล่นรอบสูงสักหมื่นรอบ ต้องปั้มน้ำมันเครื่องซิ่ง
จริงอยู่ปั้มนั้นเครื่องในรถทั่วๆไป สามารถสร้างแรงดันน้ำมันเครื่องได้สูง แต่ก็เป็นเพียงในรอบเครื่องที่ไม่สูงมากนัก ก่อนที่ปั้มน้ำมันเครื่องจะทำลายตนเอง เนื่องจากวัสดุไม่สามารถรองรับกับภาระการหมุนด้วยความเร็วรอบสูงๆ หรือไม่สามารถสร้างแรงดันน้ำมันไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆที่ต้องมีการหมุนด้วยความเร็วรอบสูงๆได้เพียงพอต่อความต้องการ ดั้งนั้นสำหรับเครื่องยนต์ที่มีการโมดิฟลายให้มีแรงม้าสูงขึ้น หรือใช้งานกับรอบเครื่องยนต์สูงมากๆ การเล่นแรงกับแรงดันน้ำมันเครื่องเห็นเป็นหนีไม่พ้นกับ ปั้มน้ำมันเครื่องซิ่งอีกสักชุด ด้วยการออกแบบ และการใช้วัสดุอย่างดี ปั้มน้ำมันเครื่องซิ่ง จากหลายยี่ห้อ จะถูกสร้างขึ้นมาให้ตรงตามการใช้งานของแต่ละรุ่นของเครื่องยนต์ ความต้องการความเร็วรอบสูงสุด หรือต้องการแรงดันน้ำมันเครื่องที่สูงมากขึ้น
Wet Sump
ขยายอ่างน้ำมันเครื่อง
ในบางครั้งเครื่องยนต์ที่มีรอบสูงมากขึ้น ปั้มน้ำมันเครื่องก็ต้องการน้ำมันเครื่องในปริมาณมากขึ้น อีกทั้งในการใช้งานที่แบบสมบุกสมบัน แซงซ้าย แซงขวา ออกตัวอย่างแรง เบรกอย่างกะทันหัน ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำมันเครื่องในอ่างน้ำมันเครื่องมีการกระเพื่อม ไหลวนไปมา ดังนั้นการเพิ่มความจุอ่างน้ำมันเครื่อง ให้มีปริมาณการรองรับน้ำมันเครื่องได้มากขึ้น อีกสัก 1 – 2 ลิตร เช่นจาก 4 ลิตร ไปเป็นซัก 6 ลิตร โดยการไม่ทำให้ระดับของน้ำมันเครื่องสูงขึ้น เห็นจะเป็นวิธีการนำแคล็งน้ำมันเครื่องเดิมออกมาตีกล่องขยายเพิ่มความจุ หรือหาแคล็งน้ำมันเครื่องซิ่ง ที่แต่สำนักต่างๆทำออกมาขายให้กับเครื่องยนต์แรงๆเกือบทุกรุ่น นั้นเห็นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันได้ว่าจะโยนโค้งซักเพียงใด ออกตัวแรงแค่ไหน หรือรอบเครื่องจะสูงซักเท่าไหร่ น้ำมันเครื่องจะยังมีพอหล่อเลี้ยงในระบบไม่ขาดระยะ และแคล็งน้ำมันเครื่องซิ่งบางรุ่น ยังสามารถออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนให้กับน้ำมันเครื่องได้อีกด้วย
Dry Sump
แรงสุดๆ ต้อง อ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้ง
วิธีที่เล่นแรงที่สุดกับระบบหล่อลื่น ในปัจจุบันต้องยกให้กับระบบ Dry Samp หรืออ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้ง ระบบนี้มีมาแต่โบราณ เป็นที่นิยมสำหรับรถสปอร์ตราคาแพง หรือพวกอย่างรถ Suprecar เกือบทุกรุ่น หรือในรถแข่ง ตั้งแต่รถ Drag Racing , Nascar , Rally หรือแม้แต่ F1 ต่างก็ใช้ระบบนี้ ด้วยการหลีกพ้นข้อจำกัดในระบบหล่อลื่นแบบธรรมดาทั้งหมด Dry Sum จะไม่มีอ่างน้ำมันเครื่อง หรือฝักบัวดูดน้ำมันเครื่อง แต่อาศัยหม้อพักน้ำมันเครื่องที่แยกอิสระออกจากตัวเครื่องยนต์ ส่งน้ำมันเครื่องมายัง Oil Pump ที่ทำงานด้วยไฟฟ้า หรือใช้สายพานจากมูเลย์เครื่องยนต์มาปั่นแม่ปั้ม คล้ายกับการทำงานของปั้มน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ หรือใช้เป็นระบบฟันเฟืองเชื่อมต่อการทำงานกับเครื่องยนต์ ปั้มน้ำมันเครื่องแรงดันสูงเข้าสู่เครื่องยนต์โดยตรง แล้วดูดน้ำมันเครื่องที่ไหลกลับมายังหม้อพักน้ำมันเครื่องอีกครั้ง Dry Sump มีข้อดีตรงที่เครื่องยนต์จะไม่มีอ่างน้ำมันเครื่องห้อยต่ำลงมา ใต้ท้องเครื่องยนต์เรียบสนิท จึงสามารถวางเครื่องยนต์ให้ต่ำลง เพื่อให้เกิดจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ รถยนต์ถึงจะเกาะถนนมากขึ้น และยังช่วยลดขีดจำกัดในการโมดิฟลายเครื่องยนต์ ที่อาศัยข้อเหวี่ยงเป็นตัววิดน้ำมันเครื่องในก้นแคล็ง ซึ่งแน่นอนการตัดภาระในจุดนี้เป็นการเพิ่มแรงม้าได้มากมายหลายตัว อีกทั้งเป็นการตัดปัญหาจุกจิกกับปั้มน้ำมันเครื่องที่จะมารองรับกับความเร็วรอบสูงๆไม่ไหว และอย่างในรถ Drag ในขณะออกตัว เป็นการป้องกันปัญหาน้ำมันเครื่องที่รับแรง G ในการออกตัว แล้วไหลมากองรวมกันด้านหลังเครื่องจนน้ำมันเครื่องขาดระบบ แม้แต่ในรถ Rally หรือในรถ สนามเซอร์กิตต่างๆ Dry Sump ยังสามารถรับประกันได้ว่า จะเข้าโค้งด้วยแรง G สักเพียงใด ออกตัวจนหน้ายก เบรกจนท้ายกระดก ขึ้นเนินสูง ตกกระแทกพื้น ลอยไปในอากาศ หรือแม้แต่จะตีลังกาอีกสักกี่รอบ Dry Sump ก็ยังสามารถป้อนน้ำมันเครื่องให้หล่อเลี้ยงในระบบเครื่องยนต์ได้อย่างไม่ขาดตอนแน่นอน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น